3 ขั้นตอนในการป้องกันไวรัส
ปัจจุบันการใช้งานอินเตอร์เน็ต ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่หลายๆ คน และหลายๆธุรกิจจะขาดเสียมิได้ และถือเป็นช่องทางที่ผู้คิดค้นไวรัสชอบมากที่สุด เนื่องจากสามารถแพร่กระจายได้พร้อมกันทั่วโลกเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าคุณเป็นผู้หนึ่งที่จำเป็นต้องใช้งานคอมฯ ในส่วนของ อินเตอร์เน็ต หรือมีเพื่อนร่วมงานใช้อินเตอร์เน็ตด้วยละก็ ก็คงจะต้องระวังตัวไว้ให้ดี ส่วนวิธีการป้องกันแบบได้ผลดีมาก เป็นที่นิยม และมีความเสี่ยงน้อยสุด (แต่ไม่รับรอง 100% ว่าจะไม่ติดไวรัส) ให้ทำตาม 3 ขั้นตอน ดังนี้
1. ติดตั้งโปรแกรม Firewall
ซึ่งเป็นโปรแกรมในการป้องกัน hacker ได้ดีมาก ซึ่งมีทั้งที่เป็น hardware และ software สำหรับ software อาจหาฟรี download ได้จากเว็บไซท์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Sygate Personal Firewall, ZoneAlarm ซึ่งเป็น freeware ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ถ้าสนใจเราก็ทำลิงค์สำหรับการ download ไว้ให้แล้วที่หน้า Anti-Virus (สำหรับองค์กรใหญ่ๆ มักมีการติดตั้ง Firewall ไว้แล้ว ดังนั้นอาจไม่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่มเติมอีกก็ได้
2. Update Windows ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
โดย เรียกใช้โปรแกรม Windows Update แบบอัตโนมัติ ที่มีมากับ Windows ที่คุณใช้งานอยู่ เพื่อเป็นการป้องกันช่องโหว่ของโปรแกรม Windows ที่พวก hacker ค้นพบ แต่ต้อง update online ผ่านอินเตอร์เน็ต เท่านั้น (เนื่องจากมีการ update บ่อยมาก อาจมีการ update ทุกวันเลยทีเดียว)
ขั้นตอนการเรียกโปรแกรม Windows Update
* คลิกปุ่ม Start เลือก Settings
* คลิกเลือก Control Panel
* ใน Windows 2000 จะมีไอคอน Automatic Updates ให้คลิกเลือกได้เลย
* ใน Windows XP จะอยู่ทีแถบด้านซ้ายมือชื่อ Windows Update
หลังจากนั้นจะมีการรายงานว่ามีโปรแกรมอะไรบ้างที่จะต้อง update เราสามารถคลิกเลือกรายการที่ต้องการ update ได้ (ถ้าไม่ทราบให้เลือกทั้งหมด) หลังจากนั้นโปรแกรมจะเริ่ม download และติดตั้งให้จนกระทั่งเสร็จ โดยทั่วไปจะต้องมีการ restart windows ใหม่หนึ่งครั้ง ส่วนการ update แบบอัตโนม้ตินั้น สามารถกำหนดให้ update ทุกๆ ชั่วโมง ทุกวัน หรือเวลาใดก็ได้
3. ติดตั้งและ Update Anti-Virus โปรแกรมอย่างสม่ำเสมอ
โดยเฉพาะในส่วนของ DAT & Engine สามารถอ่านรายละเอีดยเพิ่มเติมได้จากหน้า Anti-Virus
ระวัง ไวรัสจากการค้นหา serial number
ฉันเป็นผู้ หนึ่งที่ชอบทดสอบการใช้โปรแกรมมานาน ส่วนหนึ่งได้ค้นคว้าหาข้อมูลเองจากอินเตอร์เน็ต อีกส่วนหนึ่งก็อ่านจากนิตยสารคอมพิวเตอร์ หลายๆ ฉบับมักมีการแนะนำการใช้โปรแกรมต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น Shareware มีอายุการใช้งานไม่เกิน 30 วัน ผู้เขียนมักแนะนำให้ไปหา Serial Number หรือ Crack จากอินเตอร์เน็ต ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีการที่สะดวกในการที่เราต้องการทดสอบโปรแกรมแบบ เต็มๆ
อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ที่ได้มีการทดสอบ ปรากฏว่า เกือบ 100% มักประสบปัญหาไวรัสประเภทต่างๆ แอบแฝงเข้ามา ร่วมทั้งสื่อโฆษณาลามก โดยที่เราไม่ต้องทำอะไร ไวรัสก็จะเข้ามาติดตั้งในเครื่องคอมฯ ของเราเอง และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ถ้าคุณทำงานในองค์กรที่มีระบบเครือข่าย อาจเกิดปัญหาที่คุณอาจคิดไม่ถึงได้ เรื่องนี้ฝากให้ระวังกันไว้ด้วย..
คำแนะนำเบื้องต้นก็คือ ก่อนทำการค้นหา serial number นั้น ต้องติดตั้งโปรแกรม anti-virus แบบฉบับสมบูรณ์ มีระบบ Firewall ที่แน่นหนาพอ ซึ่งอาจช่วยได้ ณ ระดับหนึ่ง เท่านั้น
วิธีทดสอบความเก๋าของ Anti-Virus ในเครื่องคุณ
1. เปิดโปรแกรม NotePad ขึ้นมา (ไว้ที่หน้าจอ Desktop จะสะดวกสุด)
2. Copy โค้ดด้านล่างไปใส่ใน NotePad
X5O!P%@AP[4\PZX54(P^)7CC)7}$EICAR-STANDARD-ANTIVIRUS-TEST-FILE!$H+H*
3. Save เป็นชื่อ virus.com
4. แล้วลองรันดู
ถ้า Anti-Virus ไม่แจ้งว่าเป็นไวรัสก็แสดงว่า ถึงเวลาเปลี่ยน Anti-Virus เพราะว่ามันไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการตรวจจับ
หากเจอ folder ชื่อ Flashy โดยที่ ScanViras ตรวจหาไม่เจอ คาดว่าคุณโดนไวรัสเข้าแล้วต้องทำการลบออกซะก่อนที่จะติดลงเครื่อง• ห้ามเปิด folder Flashy เด็ดขาดเพราะไวรัสจะลงเครื่องทันที แต่ไวรัสจะไม่แพร่ผ่านเครือข่ายหากคุณไม่ไปเปิดมัน ไวรัสตัวนี้ใช้แฟรชไดร์ฟเป็นพาหะ
• ต้องใช้เครื่องที่ยังไม่ติดไวรัส flashy ในการลบ โดยตรวจสอบได้จาก เปิด My computer คลิกเมนู Tools หากเครื่องไม่ติดไวรัสจะมี Folder Option… ถ้าไม่มีแสดงว่าเครื่องติดไวรัสแล้วใช้ลบไม่ได้
• เปิดเข้าไปในแฟรชไดร์ฟ ไปที่เมนู Tools คลิก Folder Option คลิกแท็ป View เลือก Show hidden files and folders
• folder ที่ออกมานั้น จะเห็นเป็นสีจางๆ ส่วน folder ที่เหลือเป็นสีเข้ม มันเป็นไวรัส ห้ามเปิดเด็ดขาด ลบ folder สีเข้มไปได้เลย รวมถึง flashy ด้วย (ข้อมูลที่เป็น file อย่าไปยุ่งเพราะไวรัสจะก่อกวนเฉพาะ folder)
• คลิกขวาที่ folder เลือก Properties เอาเครื่องหมายถูกหน้า Hidden ออก เท่านั้นข้อมูลของเราก็กลับมาเป็นปกติ
10 วิธีในการลดปัญหาเกี่ยวกับไวรัสและสแปมเมล์
1. ควรมีอีเมล์อย่างน้อยคนละ 2 อีเมล์ (อีเมล์ในองค์กร + อีเมล์ส่วนตัว)
ทั้งนี้อีเมล์ขององค์กร ก็ควรใช้เฉพาะขององค์กรไม่ควรใช้ร่วมกัน (เพื่อลดปัญหา กรณีมีการย้ายงาน)
2. หลีกเลี่ยงการ post อีเมล์ในเว็บบอร์ดต่างๆ ถ้าจำเป็นควรใช้อีเมล์ส่วนตัว
เนื่องจากปัจจุบันมีโปรแกรมในการดูดอีเมล์จากเว็บต่างๆ ซึ่งอีเมล์ของคุณอาจถูกนำไปขายให้กับบริษัทรับอีเมล์ก็ได้ ซึ่งมีผลทำให้คุณจะได้รับเมล์โฆษณาต่างๆ อีกมากมาย
3. สำหรับองค์กร ไม่ควรนำอีเมล์ขององค์กรไป register ในเรื่องส่วนตัว
4. หลีกเลี่ยงการส่ง Forward mail โดยเฉพาะเมล์ ลูกโซ่
5. หลีกเลี่ยงการเปิดเมล์ที่คนที่เราไม่รู้จัก
6. หลีกเลี่ยงการตอบเมล์ กับคนที่เราไม่รู้จัก
เนื่องจากจะเป็นการยืนยันอีเมล์ของคุณว่า มีคนใช้งานจริง
7. หลีกเลี่ยงการคลิกลิงค์ภายในอีเมล์ที่ได้รับ เนื่องจากเป็นช่องทางของไวรัสที่จะเข้าสู่เครื่องคอมฯ
8. หลีกเลี่ยงการเปิดเมล์ ที่มีไฟล์ attached เข้ามา เช่น .scr, .com, .exe, .bat เป็นต้น
9. หลีกเลี่ยงการเปิดเมล์ ที่มี subject เช่น hello, hi, I love you เป็นต้น เนื่องจาก subject เหล่านี้มักเป็นที่มาของไวรัส
10. หลีกเลี่ยงการติดตั้ง free program จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชือถือ เพราะ โปรแกรมเหล่านี้ อาจมีโปรแกรม spyware แอบแฝงเข้ามาให้ตอนติดตั้งด้วย โดยเฉพาะกับโปรแกรมประเภท Screen Saver ที่หลายๆ คนชื่นชอบ
นอกจากนี้การลบไฟล์ขยะที่เกิดจากการเข้าไปเว็บไซต์ต่างๆ จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้เช่นกัน เราสามารถใช้โปรแกรมที่มากับ Windows ลบได้โดยการเข้าไปยังเมนู All Programs -> Accessories -> System Tools -> Disk Cleanup
วีดีโอการซ่อมคอมพิวเตอร์
วีดีโอการซ่อมคอมพิวเตอร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น