การแก้ปัญหาครื่องแฮงค์
เครื่องแฮงค์เพราะไดร์เวอร์
ไดร์เวอร์คือ โปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการหรืออธิบายง่ายๆ ก็คือคอยทำหน้าที่แนะนำให้ระบบปฏิบัติการรู้จักและทำงาน ร่วมกับฮาร์ดแวร์ได้นั่นเอง ดังนั้นหากอุปกรณ์ตัวไหนที่ไม่ได้ลงไดรเวอร์ ก็อาจทำให้ระบบปฏิบัติการไม่รู้จัก จึงไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ดูแล้วไดร์เวอร์ ไม่น่าจะเป็นตัวที่ทำให้เกิดปัญหาใช่มั้ยค่ะ แต่เนื่องจากว่าบางครั้งไดร์เวอร์ที่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ไม่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ตัวเก่าได้ มีผู้ใช้หลายคนยกเครื่องมาให้ ช่างคอมพิวเตอร์ตรวจเช็คเนื่องจากปัญหาเครื่องแฮงค์บ่อยพอสอบถามถึงปัญหาก็พบว่าผุ้ใช้ได้เคยอัพเดท ไดร์เวอร์รุ่นใหม่ที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต ดังนั้นเมื่อตรวจเช็คแล้วก็พบว่าไดร์เวอร์ที่ผุ้ใช้ อัพเดทนั้นเป็นไดรเวอร์รุ่นทดสอบที่หลายเว็บไซต์มักชอบนำมาให้ดาวน์โหลดไปทดสอบกันดูก่อน เมื่อไดรเวอร์ยังไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่สามารถทำงานเข้ากับฮาร์ดแวร์ บางตัวได้จึงทำให้เกิดปัญหาเครื่องแฮงค์ นั่นเอง ซึ่งปัญหานี้พบได้บ่อยมาก
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาของช่างคอมพิวเตอร์ก็คือ ให้สอบถามพฤติกรรมการใช้งานของ ผู้ใช้ก่อน หากพบเครื่องที่มีอาการแฮงค์หลังจากที่ผู้ใช้อัพเดทไดร์เวอร์ลงไปให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเกิดจากสาเหตุนี้ วิธีแก้ปัญหาก็คือให้จัดการถอดไดร์เวอร์ที่มีปัญหานั้นทิ้งไป แล้วลงไดร์เวอร์ตัวเก่าที่เคยใช้งานได้ดีกลับไปเหมือนเดิม โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ให้คลิกขวาที่ไอคอน My Computer > Properties
2. ที่หน้าต่าง System properties ให้คลิกแท็ป Device Driver
3. จากนั้นคลิกขวาที่ไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ที่มีปัญหา แล้วเลือกคำสั่ง Remove ไดร์เวอร์นั้นออกไปแล้วลงไดร์เวอร์ตัวเก่าที่เคยใช้งานได้ดีกลับไปเหมือนเดิม
แต่บางครั้งไดร์เวอร์ที่มากับอุปกรณ์ตั้งแต่ตอนแรกที่ซื้อมา ก็อาจทำให้มีปัญหาได้เหมือนกัน โดยจะ พบบ่อยมากในไดร์เวอร์ของการ์ดแสดงผล 3 มิติ และซาวด์การ์ดยี่ห้อโนเนมทางแก้ปัญหาคือ ต้องไปดาวน์โหลดไดร์เวอร์เวอร์ชั่นใหม่จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตอุปกรณ์ยี่ห้อที่ใช้อยู่เท่านั้น ไม่ควรไปดาวน์โหลดจากเว็บไซต์อื่น เพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
เครื่องแฮงค์เพราะโปรแกรมแอพพลิเคชั่น
หลายครั้งที่อาการแฮงค์มักเกิดหลังจากโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องเข้ากันไม่ได้ บางไฟล์ของโปรแกรมตัวหนึ่งอาจเข้าไปเปลี่ยนแปลงไฟลืบางตัวของระบบปฏิบัติการจึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นตามมาได้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากไฟล์นามสกุล DLL ซึ่งเป็นไฟล์สาธารณะของระบบปฏิบัติการ ที่มักจะมีหลายโปรแกรมที่เราติดตั้ง เข้ามาขอใช้ไฟล์นามสกุล DLL ด้วย แต่บางโปรแกรมก็มีไฟล์ DLL เวอร์ชั่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าไฟล์ DLL ตัวเดิมของระบบปฏิบัติการ เมื่อเราติดตั้งโปรแกรมนี้ลงไปมันก็จะเขียนไฟล์ DLL ตัวใหม่ทับตัวเก่าทันที จึงทำให้เกิดปัญหาเครื่องแฮงค์ตามมา เพราะไฟล์ DLL เวอร์ชั่นใหม่ไม่สามารถทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการได้
สำหรับแนวทางแก้ไขของช่างคอมพิวเตอร์ก็คือ ให้สอบถามพฤติกรรมของการใช้งานของผู้ใช้ก่อน เมื่อพบเครื่องที่มีลักษณะเครื่องแฮงค์หลังจากที่ผุ้ใช้ลงโปรแกรมตัวใหม่ลงไป ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจ มาจากสาเหตุนี้ วิธีการแก้ไขก็คือ หากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบนวินโดวส์ 98 / Me ให้บูตเครื่องด้วยแผ่นบูตแล้วพิมพ์คำสั่ง Scanreg / restore เพื่อเป็นการย้อนกลับไปใช้รีจีสทรีที่วินโดวส์ได้แบ็คอัพเก็บไว้ 5 วันหลังสุด ก็ให้เราเลือกวันที่คิดว่ายังไม่เกิดปัญหาเพียงเท่านี้ก็จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้
สำหรับวินโดวส์ Me และวินโดวส์ XP ก็สามารถใช้โปรแกรม System Restore เพื่อย้อนกลับไปยังวันที่ไม่เกิดปัญหาได้ โดยสามารถเรียกใช้โปรแกรมได้ดังนี้
1. คลิกปุ่ม Start > Program > Accessories > System Tools > System Restore
2. เมื่อปรากฏโปรแกรม System Restore ขึ้นมาให้คลิกที่ช่อง Restore my computer to earlier time แล้วคลิกปุ่ม Next
3. เลือกวันที่และจุด Checkpoint ที่คิดว่ายังไม่เกิดปัญหา โดยวันที่ที่สามารถย้อนกลับไปได้จะเป็นช่องหนาๆ เมื่อเลือกเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม Next
4. จะมีหน้าต่างแสดงรายละเอียดของวันที่และจุด Checkpoint ที่ต้องการย้อนระบบกลับไป ให้เราคลิกปุ่ม Next แล้วโปรแกรมก็จะเริ่มทำการย้อนระบบกลับไปยังวันที่และจุด Checkpoint ที่เรากำหนด
Shut Down แล้วแฮงค์
อาการดังกล่าวภาษาชาวบ้านเรียกว่าเครื่องเกเร เราอุตส่าห์สั่งปิดแล้วแต่เครื่องเจ้ากรรมกลับดื้อ ไม่ยอมทำตามคำสั่ง ถ้าใครเจอปัญหานี้ต้องเข้าใจก่อนนะค่ะว่า โปรแกรมไมโครซอฟท์น่ะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเวลาผู้ใช้สั่งชัดดาวน์ โดยทั่วไปเมื่อคุณสั่งชัดดาวน์เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ โปรแกรมวินโดวส์จะทำการยกเลิกไดร์ฟเวอร์ต่างๆ ออกจากหน่วยความจำ แล้วเครื่องก็จะ หยุดทำงาน แต่ถ้าโปรแกรมมันรีบร้อนยกเลิกไดรฟ์เวอร์ (ที่พบบ่อยก็คือ วินโดวส์ 98) ก็จะทำให้ โปรแกรมหลายๆ ตัวที่เปิดใช้งานอยู่เกิดอาการแฮงค์ขึ้น
วิธีแก้ปัญหาให้ทำอย่างนี้ค่ะ คุณสามารถ Disable การสั่งชัดดาวน์อย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างง่ายๆโดยการ คลิ๊กที่เมนู Start เลือก Run แล้วพิมพ์คำว่า "Msconfig" จากนั้นกด <Enter> เมื่อเห็นหน้าต่างที่เปิดขึ้นมา ให้คุณเลือกปุ่ม Advanced เพื่อเลือกเช็ค Disable Fast Shutdown หากคุณใช้วินโดวส์ 95 หรือ 98SE อยู่แล้วคุณจะไม่เจอปัญหาการ ชัดดาวน์แบบนี้เลย.
คอมพิวเตอร์ชอบรีสตาร์ทบ่อย ๆ สาเหตุเกิดจากอะไร
ปัญหาคอมพิวเตอร์ชอบรีสตาร์ทบ่อย ๆ หลายครั้งมักเกิดหลังจากการอัพเกรดอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปใหม่ โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้แรมคนละยี้ห้อ หรือมีบัสที่แตกต่างจากแรมที่มีอยู่เดิม ดังนั้นการตรวจเช็คจึงควรถอดแรมที่อัพเกรดเข้าไปใหม่ออกเสียก่อน แล้วจึงทดลองใช้งานหากปัญหานี้หมดไป นั่นแสดงว่าป็นเพราะแรมตัวใหม่นั่นเอง
นอกจากแรมแล้วยังมีอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งซึ่งอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องชอบรีสตาร์ทอยู่บ่อยนั่นคือเพาเวอร์ซัพพลาย หากภายในเคสของเรามีการติดตั้งอุปกรณ์มากเกินไปและแต่ละตัวก็ล้วนกินไฟค่อนข้างมาก เช่น ติดตั้ง ฮาร์ดดิสก์ 2 ตัว หรือติดตั้งการ์ดจอ 3 มิติราคาแพง อุปกรณ์เหล่านี้อาจทำให้เพาเวอร์ซัพพลายจ่ายไฟไม่เพียงพอจนทำให้เครื่องต้องรีสตาร์ทใหม่อยู่บ่อย ๆ ทางแก้คือให้เปลี่ยนเพาเวอร์ซัพพลายตัวใหม่ที่มีวัตต์สูงกว่าเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น